หลังจากเคยมาเยี่ยมเยือน “บันเทิงสยามรัฐ”  มาแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อแนะนำตัว 10 หมอดูที่เข้ารอบการแข่งขัน “ศึกชิงจ้าวหมอดู ซีซั่น2″ซึ่งจัดขึ้นที่  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ  เมื่อวันที่ 23- 24 กรกฏาคม ที่ผ่านมา โดย หมอดู  ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ  อาจารย์ศุภชัย อนุที   เจ้าของฉายา “อาจารย์หนุ่มหมอดูเทวดา”, อันดับ2  ได้แก่ คุณอัชฌาญา วิไลแก้ว  ฉายา อ.แพท ลูกแก้วเทพเจ้าไอยคุปต์  , อันดับ 3 ได้แก่ อาจารย์ปานชีวา ทิตาวีร์ หมอดูไพ่ทาโร่   และ อับดับ  4  ได้แก่  อาจารย์อภิชาติ มะลิลา หมอดูผู้เชี่ยวชาญด้านอักษรรูน ที่เป็นอักษรโรมันโบราณ พร้อมกับสามารถดูไพ่ทาโร่ได้  หลังความสำเร็จจากการแข่งขัน  หมอดูเจ้าของรางวัลที่1,3 และ 4  ได้แวะมาเยี่ยม “บันเทิง สยามรัฐ” อีกครั้ง

สำหรับความเก่งกาจในการทำนายทายทักที่เป็นจุดเด่นของหมอดูแต่ละท่านข้างต้น  เริ่มจาก อ.ศุภชัย อนุที(อ.หนุ่ม หมอดูเทวดา)  หมอดูท่านนี้ใช้วิชาพลังจิต

 

 

ในการหยั่งรู้อดีต ปัจจุบัน อนาคต  และยังคุยอีกด้วยว่าสามารถดูได้ทั่วโลก  แม้กระทั่งมองเห็นภูมิทัศน์ของบ้านผู้ถูกทายทักได้อย่างแม่นยำ  ซึ่งอาจารย์ศุภชัย  ได้ชนะเลิศที่ 1 เพราะสามารถตอบคำถามปริศนาในการแข่งขันได้ถูกต้องแม่นยำกว่าหมอดูคู่แข่งในการประกวดที่ผ่านมา

“ไฮไลท์ของการที่ผมได้ชนะเลิศ  คือตอนที่ทางคณะกรรมการได้นำบุคคลปริศนา  เพื่อจะให้หมอดูแต่ละคนทาย โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าบุคคลปริศนาที่จะมาเป็นตัวทดสอบนี้คือใคร  ซึ่งผมก็ใช้พลังจิตมองดูว่าบุคคลผู้นี้มีบ้าน 3 หลัง  มีแผลเป็นที่ขา และวันนี้เธอสวมชุดขาวครีม  และเมื่อทางคณะกรรมการจัดงานได้เปิดตัวบุคคลปริศนาออกมาก็ปรากฎว่าเป็น  คุณเมย์ เฟื่องอารมณ์  ที่มาในชุดขาวครีม  และเธอก็มีบ้าน 3 หลัง  อีกทั้งมีแผลเป็นที่ขาด้วย  ตรงตามที่ผมทายทุกอย่าง”

 หลังจาก  อาจารย์ศุภชัยได้ที่ 1 แชมป์หมอดูประเทศไทยแล้ว  วันต่อมาท่านก็ได้เป็นตัวแทนหมอดูประเทศไทยแข่งขันในระดับเอเชียทันที  ซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทยเช่นกัน  โดยคว้ารางวัลชนะที่ 2  รองจากหมอดูอินโดนีเซีย  ที่ได้ที่ 1 ไปครอง โดยในระดับเอเชียมีประเทศผู้เข้าแข่งขันทั้งสิ้น 5 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย,ลาว,เกาหลี,อินเดีย และ ประเทศไทย

 

ทางด้าน  อ.ปานชีวา  ทิตาวีร์  (Ms.Angel)หมอดูไพ่ทาโร่พลังงานธาตุ  ซึ่งจุดเด่นของอาจารย์ท่านนี้แตกต่างจากหมอดูไพ่ทาโร่ทั่วไป  โดยไม่ใช่แค่ทำนายชะตาชีวิตเท่านั้น  แต่ยังบอกหนทางในการแก้ปัญหาชีวิตให้อีกด้วย

“เราดูไพ่ทาโร่แบบพลังงานธาตุ คือดูตามปัญหาพลังงานธาตุและช่วยแก้ไขปัญหาชีวิต บำบัดสิ่งที่บกพร่องในตัวของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไปตามพลังงานธาตุ  ซึ่งดิฉันคิดว่าในอนาคตอยากจะทำโครงการที่เกี่ยวกับการบำบัดคนมีอาการทางจิต คือเป็นอาการทางจิตที่ไม่รุนแรงมากนัก เช่น คนที่มีความท้อแท้  หมดอาลัยตายอยาก  เป็นคนขี้หึงอย่างไร้เหตุผล ฯลฯ เหล่านี้สามารถใช้ไพ่ทาโรพลังงานธาตุช่วยแก้ปัญหาได้”

 

สำหรับ  อ.อภิชาติ มะลิลา เจ้าของฉายาที่เจ้าตัวภาคภูมิใจ คือ  มดดำ ยิปซีคาราวาน  โดยการใช้หินที่มีอักษรรูน(RUNE) ซึ่งเป็นอักษรเยอรมันโบราณ  ที่สามารถนำมาใช้ทายชะตาชีวิตได้  โดยอาจารย์อภิชาติ  ยังใช้ก้อนหินอักษรรูน ควบคู่ไปกับการทำนายด้วยไพ่ทาโร่

 

 

“อักษรรูน มีความแม่นยำมาก  มีการใช้อักษรนี้ในการทำนายชะตาชีวิตมานานมากแล้ว  ถือเป็นการสำรวจเอ็กซเรย์ชะตาชีวิต  รวมถึงสำรวจภายในจิตใจของเรา  เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาช่วยแก้ปัญหาชีวิต ควบคู่กับการใช้ไพ่ทาโร่เพื่อความแม่นยำและแก้ปัญหาได้ถูกจุดมากขึ้น”

 

ในการมาเยือน “บันเทิง สยามรัฐ” ในครั้งนี้ไหนๆก็มี “แชมป์หมอดู” มาเยี่ยมทั้งที งานนี้จึงต้องมีการทดสอบความแม่นยำกันหน่อย   ทีมงานจึงส่งนักข่าวสาวลอง  อ.ศุภชัย  อนุที  ฉายา “อ.หนุ่ม หมอดูเทวดา”   เจ้าของ รางวัลชนะเลิศทำนาย  ปรากฏว่าอาจารย์หนุ่ม ทำนายได้แม่นยำจริงๆ  ดังที่อาจารย์บอกไว้ว่า  สามารถทำนายที่พักอาศัยได้ด้วยโดยอาจารย์ได้ทำนายเป็นฉากๆว่า
บ้านของแฟนนักข่าวสาวคนนี้  พอเดินเข้าไปจะเจอ ทีวีเครื่องโตตั้งอยู่  ทางเข้าบ้านมีทางออกได้สองทาง  มีร้านขายอาหารตามสั่งตั้งอยู่แถวบริเวณหน้าบ้าน  และที่ทำเอานักข่าวอึ้งก็คือ  ทำนายว่าแฟนหนุ่มของเธอไม่เชื่อเรื่อง หมอดู  และตัวนักข่าวสาวเองเพิ่งไปดูหมอดูมาก่อน ทั้งยังสามารถระบุลักษณะของหมอดูคนนั้นได้อย่างแม่นยำ
โดยนักข่าวสาวได้เปิดเผยหลังการทำนายว่า  อาจารย์หนุ่ม ทำนายได้แม่นยำมาก  โดยเริ่มจากการขอวันเดือนปีเกิด  ตามปกติของหมอดูทั่วไป  จากนั้นอาจารย์ก็มองหน้าแล้วก็พูดทำนายไปเรื่อยๆ  ที่ทำนายเกี่ยวกับที่พักถูกต้องทั้งหมดและถึงตอนที่ถามว่า  ตัวเองมีเทพ หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองหรือไม่  ที่สังเกตุได้คือ  อาจารย์เขาก็พูดคนเดียวด้วยภาษาจีน แล้ว ก็ภาษาอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง   เหมือนพูดสื่อสารกับ  “สิ่งที่เรามองไม่เห็น”  ก่อนจะทำนายว่า มี  เจ้าแม่กวนอิม  และ บรรพบุรุษที่มาจากประเทศจีนคอยคุ้มครอง  ซึ่งต้นตระกูลของอากงของตนเอง มาจากเมืองจีนจริงๆ  สำหรับคนอื่นไม่รู้นะ แต่สำหรับตัวเองโดยรวมยอมรับว่า มีความแม่นยำเต็มร้อยเปอร์เซนต์